ล็อกเป้าวันสาดกระสุนแล้ว ปัจจุบัน ผู้ให้บริการ Playism แล้วก็ผู้พัฒนา FYQD-Studio เคาะยามวันเปิดให้บริการ Bright Memory : Infinite ภาคต่อของเกมยิงสุดเลือดสาด
Bright Memory ออกมาเป็นที่เป็นระเบียบแล้วตามนี้เป็น 21 ก.ค. 2022 จะเริ่มละเลงเลือดทาปถพีบน PlayStation 5, Xbox Series แล้วก็ Switch ขณะนี้ มีชื่ออยู่ในลิสต์เกมของ PlayStation Store, Microsoft Store แล้วก็ Nintendo eShop สโตร์ประเทศญี่ปุ่นแล้วบน PlayStation Store แล้วก็ Nintendo eShop จะเป็น Bright Memory: Infinite เวอร์ชั่น Gold Edition ที่มีขาย ส่วนบนร้านค้า Microsoft Store จะมีเฉพาะ Bright Memory: Infinite เวอร์ชั่น Platinum Edition
Bright Memory: Infinite เป็นเกม FPS Action Shooter เริ่มเปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม PC (ผ่าน Steam) รวมทั้ง GOG ตั้งแต่พ.ย.ปีที่ผ่านมา ตัวเกมสามารถรองรับได้ถึง 9 ภาษาเป็น ประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ จีน ภาษาละติน ประเทศสเปน เยอรมัน ประเทศฝรั่งเศส รัสเซีย บราซิล ประเทศโปรตุเกส อิตาเลียน แล้วก็ประเทศเกาหลี
ยิ่งแวดวงเกมปรับปรุงไปได้ไกลเพียงใดพวกเราก็ชอบได้ผลงานเด่นๆจากความสามารถของคนเพียงผู้เดียวได้มากขึ้นแค่นั้น Bright Memory Infinite เป็นการถักต่อเกมจากภาคแรกที่เปลี่ยนเป็นกระแสฮือฮาในปี 2019 ด้วยการออกแบบเกมเพลย์สุดรุนแรง งานกราฟิก รวมทั้งออกแบบโลกของเกมที่มาจากจินตนาการล้วนๆแถมยังจบแบบคอยการถักต่อแบบสุดๆและก็ภายหลังจากปลดปล่อยให้แฟนคลับคอยกันมาแทบ 3 ปี วันนี้ Bright Memory Infinite ได้ปลดปล่อยออกมาให้พวกเราได้เล่นกันแล้ว แต่ว่ามันจะคุ้มการรอไหม วันนี้มาเจอกับรีวิวของเกมนี้กัน
ด้วยเหตุว่าทาง FYQD ผู้พัฒนาเกมนี้เปิดเผยมาว่า มันจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ในโลกใหม่ เซ็ตติ้งใหม่ แล้วก็เรื่องราวใหม่เลย ทำให้เรื่องราวเกือบจะไม่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับภาคที่แล้ว แม้ว่ามันสอนพื้นฐานเอาไว้ก็ดี แถมจบแบบทิ้งเชื้อไว้ซะด้วย ตอนสุดท้ายของภาคที่แล้ว เป็นการที่ Shelia นางเอกของเกม ได้พบกับศพทหาร ก่อนที่จะจบท้ายด้วยการมาของบุคคลปัญหา แม้กระนั้นสำหรับเรื่องราวในภาคนี้ไม่มีการบอกตอนที่แน่ๆ แต่ว่าเป็นตอนเทศกาลปีใหม่ ที่ Shelia กำลังอยู่ในตอนพัก แต่ว่าแล้วคุณก็ได้รับการติดต่อจากหัวหน้าของคุณ Director Chen ว่าเกิดเหตุการณ์แปลกที่ทำให้สภาพภูมิอากาศผันแปรอย่างมาก คุณก็เลยถูกวิงวอนให้ออกกระทำการด่วน ก่อนที่จะพบว่าหลุมดำปัญหาได้ปรากฎขึ้นบนฟ้า และก็บางทีอาจแย่ลงกว่าเดิมเป็นหายนะล้างผลาญโลกได้
โชคร้ายที่ข้อด้อยที่สุดของเกมนี้ เป็นเรื่องราว เพราะว่านอกเหนือจากมันจะไม่สืบต่อจากภาคแรกแล้ว มาภาคนี้มันก็ยังคงงวยงง นอกเหนือจาก Shelia แล้ว พวกเราเกือบจะไม่พบนักแสดงหลักอื่นๆเลย แม้กระทั้ง Director Chen ก็มาเพียงแค่เสียงเพียงแค่นั้น แถมคนร้ายอย่าง General Lin เองก็โผล่มาแบบนับนาทีได้ในเกมนี้ ถ้าหากให้บอกกันตรงๆเรื่องราวของเกมนี้ถูกผลิตมาแบบชุ่ยๆมากมายๆมิได้ถูกให้ความใส่ใจอะไรก็ตามเลย เสมือนสร้างมาเพื่อมีตัวดี ตัวร้าย มีฉากแอ็คชั่นไปแบบนั้นเอง โชคร้ายมากมายที่ไอเดียสำหรับการวางแบบโลกแล้วก็เรื่องราวในเกมมันมองยิ่งใหญ่ เสมือนเป็นการระเบิดไอเดียวัยเด็กที่ได้สร้างมันขึ้นมาจริงๆกลับทอดทิ้งมันไป แล้วก็ไปเน้นย้ำในส่วนของเกมเพลย์มากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆแทน